ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มักจะโดนโจมตีอยู่เสมอจากนโยบายต่างๆ อีกหนึ่งนโยบายทำให้เค้าต้องโดนประท้วง และสกัดกั้นจากฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมากนั่นคือ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม นายทรัมป์ มีแนวคิดเรื่องของเศรษฐกิจมากกว่าสิ่งแวดล้อม เค้ามองเรื่องเงินมากกว่าการเก็บทรัพยากรไว้ให้ลูกหลานดู ซึ่งตรงข้ามกับจีนโดนสิ้นเชิง ทำให้ภาพลักษณ์เรื่องนี้ของสองประเทศดูกลับด้านไปเลย

สหรัฐ พร้อมทำลายธรรมชาติเพื่อเศรษฐกิจ

ว่ากันที่ประเทศอเมริกากันก่อน เดิมทีอเมริกามีการวางกฎหมายและขั้นตอนการสร้างโครงการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติไว้หลายชั้นเลย กว่าจะสร้างอะไรได้ทุกอย่างต้องผ่านการคัดกรองจากสภาก่อน เพื่อพิจารณาผลดี ผลเสียอย่างรอบด้านก่อนจะลงมือ อีกทั้งยังมีการสำรวจ วางมาตรการ รักษา เยียวยา ไว้อย่างครอบคลุม ผลจากการพิจารณาอย่างรอบคอบนี่แหละทำให้บางโครงการเกิดขึ้นไม่ได้เนื่องจากเหล่านายทุนไม่สามารถรอได้ จึงต้องยกเลิกไปแต่มันก็ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติยังอยู่ ตัดภาพมาตอนนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทำลายกลไกนั่นเสีย โดยการพยายามโยกอำนาจการตัดสินใจจากสภา มาไว้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ของสหรัฐฯ) พร้อมกับกำหนดให้ต้องมีการพิจารณาให้เรียบร้อยภายในเวลา 21 เดือน ล่าสุดพวกเค้าเตรียมวางแผนสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติผ่านอุทยานแห่งชาติแล้ว การทำโครงการนี้ต้องมีการทำลายผืนป่าเพื่อวางท่อแน่นอน ซึ่งการทำลายกลไกนี้นายทุนยิ้มกันเลย เนื่องจากไม่ต้องไปคอยรบกับสภาอีกแล้ว แค่คนเดียวก็ล็อบบี้ได้แล้ว

จีน จัดโซนนิ่งดูแลระบบนิเวศน์

ตัดภาพมาจีนแผ่นดินใหญ่กันบ้าง ภายใต้การนำประเทศของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ท่านได้มีการปฏิรูปและออกกฎหมายใหม่ พร้อมกับบังคับใช้อย่างจริงจังเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อเนื่อง หนึ่งในแนวคิดสำคัญนั่นคือ การจัดโซนนิ่งสำหรับการรักษาผืนป่าและระบบนิเวศน์ในแต่ละพื้นที่ (เรียกกันว่าโซนแดง) จากรายงานข่าวบอกว่า พื้นที่โซนแดงทั้งหมดของประเทศจีนมีอยู่ประมาณ 6.1 แสนตารางกิโลเมตร (กว้างมาก) อีกทั้งพวกเค้ายังมีแผนขยายพื้นที่โครงการนี้ออกไปอีกด้วย ยังไม่นับการออกมาตรการและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้มีการเปิดโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่สำคัญทางธรรมชาติอีกด้วย จะเห็นว่า อเมริกาจากเดิมเป็นประเทศแห่งการต่อต้านการอนุรักษ์ธรรมชาติจะเปลี่ยนไปด้วยแนวคิดทุนนิยมสุดโต่งแบบนี้ กลับกันจีนประเทศที่หลายคนอาจจะมองว่าทำลายธรรมชาติแต่ตอนนี้กลับเป็นหัวหอก ต้นแบบ การควบคุมพื้นที่ระบบนิเวศน์ให้คงอยู่ต่อไปยังลูกหลาน เห็นแล้วก็น่าชื่นใจหวังว่าประเทศไทยเราจะมีการนำแนวคิดของท่านสี จิ้น ผิงมาใช้ให้เกิดรูปธรรมอย่างนี้บ้างก็จะดีไม่น้อย