ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่านับตั้งแต่เกิดปัญหาสงครามคาบสมุทรเกาหลี และมีการแบ่งเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือออกจากกันอย่างชัดเจน ทั้งสองประเทศนี้รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างสหรัฐฯ ในการอุ้มเกาหลีใต้ส่วนรัสเซียอุ้มเกาหลีเหนือก็แทบไม่ค่อยลงรอยกันอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการปกครอง การใช้ชีวิตของผู้คน การปฏิบัติต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปแต่ประเทศสองประเทศนี้ยังคงไม่ค่อยลงรอยกันเหมือนเดิม กระทั่งมาถึงยุคผู้นำสมัยที่ 3 ของเกาหลีเหนืออย่างคิม จอง อึน กลับมีที่ทีที่ลดน้อยลงและยินดีเจรจากับสหรัฐฯ ที่ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเขา

เกาหลีเหนือ แสดงความตั้งใจ เจรจาสหรัฐฯ

มีรายงานข่าวที่ถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างมากเมื่อรัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีการเปิดเผยว่า ผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลเปียยางแสดงความตั้งใจเพื่อหวังเจรจากับสหรัฐฯ ขณะเดียวกันทางด้านทำเนียบข่าวเองก็ขอรอดูท่าทีก่อนว่าข่าวดังกล่าวนี้น่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน พร้อมกันนี้ยังมีการย้ำท่าทีของเกาหลีเหนือว่าต้องการนำไปสู่โครงการยุติโครงการนิวเคลียร์อย่างถาวรให้จงได้ สำนักข่าวต่างประเทศได้มีการรายงานจากกรุงโซล เกาหลีใต้ว่าทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้หรือที่เรียกว่า ชองวาแด ได้ออกแถลงการณ์ว่าประธานาธิบดี มุน แจ อิน ได้มีการพบปะหารือนอกรอบกับบรรดาคณะผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลเปียยางซึ่งนำโดยนายพล คิม ยอง ซอล รองประธานพรรคแรงงานเกาหลี พ่วงด้วยผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติระหว่างที่มีการร่วมทำพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาว ณ เมือง พยองซัง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีเหนือเองก็ด้มีการพูดถึงนาคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือว่ามีความตั้งใจเบื้อต้นเพื่อปรับปรุงกับสหรัฐฯ ให้ออกไปในทางที่ดีกว่าเก่า

สำหรับท่าที่ที่แสดงออกมาในครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามความต้องการของนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเกาหลีใต้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่ามีความประสงค์ฟื้นฟูความสัมพันธ์อันดีกับเกาหลีเหนือ ต้องการให้บรรยากาศของคาบสมุทรเกาหลีผ่อนคลายลงหลังอึมครึมมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี นายมุน แจ อิน ได้รับสาส์นเชิญให้ไปเยือนกรุงเปียงยางจาก คิม โย จอง น้องสาวของคิม จอง อึน นั่นทำให้เธอคือคนแรกในฐานะการเป็นเกาหลีเหนือเข้าไปยังประเทศเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตามทางด้านสหรัฐฯ ก็ยังคงออกมาประกาศว่าจะขอยืนหยัดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไว้ก่อน แต่นั่นถือว่าเป็นสัญญาณดีๆ ที่โลกของเราอาจสงบศึกได้ภายในเร็ววัน นอกจากนี้มันไม่จำเป็นต้องมีอาวุธร้ายแรงเก็บไว้อีกต่อไป เพราะโลกของเรามันหมดยุคแห่งการซื้อรบไปแล้ว